ทรายแมวเลือกอย่างไร?

 

เพราะบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยและใช้เวลาร่วมกันระหว่างคุณกับน้องแมวแสนรักต้องไม่หยุดแค่เรื่องความสวยงาม สภาวะแวดล้อมที่อยู่สบายครอบคลุมในทุก ๆ ด้านก็เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยเปลี่ยน House ให้เป็น Home ซึ่งในปัจจุบันนี้จำนวนของประชากรแมวที่เลี้ยงในระบบปิดมีมากขึ้น การอยู่ร่วมกันในพื้นที่จำกัดจึงทำให้เราต้องมีความพิถีพิถันในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้องแมวยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร ของเล่น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ทรายแมว ห้องน้ำ  เพราะห้องน้ำส่งผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพของน้องแมวนั่นเอง

น้องแมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาด การมีห้องน้ำและ ทรายแมว ที่ไม่ถูกสุขอนามัย หรือมีจำนวนที่ไม่เพียงพอ อาจจะทำให้น้องแมวอั้นปัสสาวะซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่ายได้ เช่น ปัสสาวะไม่ออก, ปัสสาวะเป็นเลือด หรือรุนแรงจนถึงกระเพาะปัสสาวะอักเสบเลยก็ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นการเลือกห้องน้ำและทรายแมวให้เหมาะกับพฤติกรรมของน้องและลักษณะบ้านของเราจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม อีกทั้งการเลือกทรายแมวที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องฝุ่นที่ส่งผลให้น้องแมวเกิดอาการอักเสบที่ดวงตา อุ้งเท้า รวมถึงเป็นอันตรายกับเจ้าของที่เป็นโรคภูมิแพ้ นอกจากนี้หาก ทรายแมว ผลิตจากวัตถุดิบที่ไม่ปลอดภัย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบย่อยอาหารจากการเผลอกลืนหรือกินทรายได้อีกด้วย

เริ่มจากการทำความรู้จักกับ ทรายแมว แต่ละประเภทกันก่อนค่ะ ว่าแบบไหนเหมาะกับน้องแมวและบ้านของเรามากที่สุด ทรายแมวที่วางขายอยู่ทั่วไปในปัจจุบันนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ โดยแต่ละแบบก็มีส่วนประกอบและกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันดังนี้

 

1.ทราย Bentonite หรือ ทรายแบบจับตัวเป็นก้อน

ทรายประเภทนี้ผลิตโดยใช้แร่เบนโทไนต์เป็นส่วนประกอบหลัก มีความโดดเด่นคือคุณสมบัติในการดูดซับของเหลวและความชื้นได้เป็นอย่างดี จากนั้นก็จะจับตัวเป็นก้อนจึงสามารถตักทิ้งเฉพาะของเสียได้สะดวกโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทรายทั้งกระบะในคราวเดียว จุดเด่นอีกอย่างคือเม็ดทรายจะมีลักษณะใกล้เคียงกับทรายจริงตามธรรมชาติ แมวเด็กหรือแมวมือใหม่ที่เพิ่งหัดใช้ห้องน้ำจึงรู้สึกคุ้นเคยและสะดวกใจในการเดินย่ำหรือขับถ่ายโดยไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนาน ซึ่งในปัจจุบันทรายแมวเบนโทไนต์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย สามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ในการเลือกซื้อทรายแมวประเภทนี้จะต้องคำนึงถึงสัดส่วนและชนิดของแร่เบนโทไนต์ที่นำมาเป็นวัตถุดิบด้วย โดยทรายที่ผลิตจากแร่เบนโทไนต์เกรดพรีเมี่ยมบริสุทธิ์ 100% หรือที่มักเรียกว่าทรายแมวภูเขาไฟนั้น จะมีความปลอดภัยสูงมาก เพราะเป็นชนิด Food Grade น้องแมวสามารถสัมผัสได้ หรือแม้แต่เวลาที่น้องเลียอุ้งเท้าเพื่อทำความสะอาดหลังขับถ่ายเสร็จก็สามารถทำได้อย่างสบายใจ รวมถึงทรายชนิดนี้ยังไร้ปัญหาเรื่องฝุ่นกวนใจเพราะมีการกรองฝุ่นแร่ที่หลงเหลือจากกระบวนการผลิตก่อนการบรรจุ ทรายภูเขาไฟนี้จึงมีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานภายในที่อยู่อาศัยที่เลี้ยงน้องแมวในระบบปิด แต่ก็จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าทรายชนิดอื่น

ในขณะเดียวกัน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้เลี้ยงแมว ผู้ผลิตบางรายจึงนำเบนโทไนต์ที่มีความบริสุทธิ์ต่ำกว่ามาผสมกับส่วนประกอบอื่น ๆ อาทิ ยิปซัม, ซีเมนต์ ก่อนนำไปอัดเป็นก้อนกลมขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่ถูกลง เราจึงเรียกทรายแบบนี้ว่าทรายเบนโทไนต์เม็ดกลมที่สามารถดูดซับของเสียและจับตัวเป็นก้อนได้เช่นกัน แต่จุดด้อยก็คือมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาเรื่องฝุ่นหรือเรื่องสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้และระคายเคืองได้มากกว่า

2. ทราย Crystal Litter/Silica Gel litter หรือ ทรายแมวคริสตัล

ทรายประเภทนี้ใช้โซเดียมซิลิเกตเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งลักษณะจะเป็นผลึกเม็ดใสขนาดเล็ก น้ำหนักเบา มีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นและของเหลวได้ดี แต่จะไม่จับตัวเป็นก้อน เมื่อน้องแมวปัสสาวะแล้วของเหลวจะถูกดูดซึมเข้าไปกักไว้ในผลึก การตักทิ้งจึงทำเพียงแค่ตักก้อนอุจจาระออกโดยไม่สูญเสียทรายที่ยังใช้งานได้อยู่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จำเป็นต้องสังเกตและหมั่นเปลี่ยนทรายใหม่อยู่เสมอเมื่อทรายเริ่มมีการเปลี่ยนสี โดยจะต้องเททรายเดิมทิ้งหมดทั้งกระบะเพื่อไม่ให้ปะปนกับทรายใหม่ ข้อดีของทรายชนิดนี้ก็คือไร้ปัญหาเรื่องฝุ่นและกลิ่นกวนใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีราคาค่อนข้างสูง สิ้นเปลืองทรายมากกว่า อีกทั้งด้วยน้ำหนักที่เบา เม็ดทรายคริสตัลจึงอาจเกาะติดกับขนและอาจเป็นอันตรายหากน้องแมวเลียแล้วเผลอกลืนลงท้อง

3.ทราย Biodegradable Litter หรือ ทรายจากวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้

ทรายประเภทนี้ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น เศษไม้สน, ไฟเบอร์จากถั่ว, ข้าวสาลี, ซังข้าวโพด ฯลฯ เป็นส่วนประกอบหลัก โดยมีจุดเด่นคือสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ หากมีสัดส่วนความเป็นธรรมชาติใกล้เคียง 100% ก็สามารถตักทิ้งลงชักโครกได้โดยไม่ก่อให้เกิดการอุดตันหรือสามารถนำมารียูสใช้เป็นปุ๋ยสำหรับต้นไม้ได้ มีให้เลือกหลากหลายขนาดและรูปทรง อาทิ แท่ง, เม็ด, เกล็ด อย่างไรก็ตาม ทรายชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพในการดูดซับกลิ่นและของเหลวได้ด้อยกว่าทรายชนิดอื่น แต่มีข้อดีคือเหมาะสำหรับน้องแมวที่ผิวหนังแพ้ง่าย มีพฤติกรรมชอบเลียหรือกินทราย และเป็นมิตรสูงกับสิ่งแวดล้อม

 

นอกจากทรายที่เป็นวัสดุรองรับการขับถ่ายแล้ว การเลือกประเภทของห้องน้ำแมวก็มีผลต่อคุณภาพในการขับถ่ายด้วยเช่นกัน เพราะช่วงวัยรวมถึงนิสัยและพฤติกรรมของน้องแมวแต่ละตัวก็มีความแตกต่างกันออกไป

ห้องน้ำแบบเปิดโล่ง

ห้องน้ำประเภทนี้มีหลากลายรูปแบบให้เลือกซื้อ ตั้งแต่ถาดสี่เหลี่ยมขอบสูงธรรมดา ไปจนถึงกระบะทรายแบบมีที่กรอง 3 ชั้น หรือ มีลิ้นชักสำหรับใส่แผ่นซับกลิ่น ซึ่งมีข้อดีคืออากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อับชื้น ใช้งานและถอดทำความสะอาดง่าย สามารถใช้งานได้ดีกับทรายแมวทุกชนิด เหมาะสำหรับน้องแมวระดับบีกินเนอร์ที่เริ่มฝึกขับถ่ายในกระบะทราย แต่ก็มีข้อเสียคือไม่เก็บกลิ่นรบกวน และฝุ่นของทรายฟุ้งกระจายได้ง่าย

ห้องน้ำแบบมีโดม

ห้องน้ำประเภทนี้เป็นการต่อยอดขึ้นจากแบบแรก โดยเพิ่มโดมโค้งเพื่อช่วยเก็บกลิ่นและป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย มีประตูหรือช่องสำหรับให้น้องแมวเข้าออกได้ทั้งทางด้านหน้าและด้านบน ส่วนมากจะมีขนาดใหญ่จุทรายได้มาก เหมาะสำหรับคนที่เลี้ยงแมวในพื้นที่เล็กหรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวกอย่างในห้องนอนหรือห้องคอนโดมิเนียม มีข้อเสียคืออาจจะอับชื้นได้บ้าง และมีชิ้นส่วนที่ต้องถอดออกเพื่อทำความสะอาดมากกว่าแบบเปิดโล่ง

ห้องน้ำแบบอัตโนมัติ

สำหรับบ้านไหนที่ต้องการความสะดวกสบาย และอยากให้น้องแมวได้ใช้ห้องน้ำที่แห้งสะอาดทุกครั้ง ห้องน้ำแมวแบบอัตโนมัติถือว่าตอบโจทย์เหล่านี้ได้ตรงจุด โดยมีหลักการทำงานคือทุกครั้งเมื่อน้องแมวขับถ่ายเสร็จแล้วประมาณ 15 วินาที ระบบจะทำการหมุนตระแกรงเพื่อกรองทรายที่ปนปื้อนของเสียทิ้งลงไปในถาดรองรับด้านล่าง มีรุ่นให้เลือกหลากหลายตามฟังก์ชั่นที่ต่างกันไป เช่น บางรุ่นสามารถจดจำน้ำหนักและความถี่ในการทำธุระของน้องแมว บางรุ่นก็สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นบนมือถือได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ห้องน้ำอัตโนมัติก็มีข้อจำกัดที่ต้องเลือกประเภทของทรายแมวที่จะนำมาใช้คู่กัน ซึ่งควรจะมีคุณสมบัติดังนี้

  1. มีลักษณะเป็นเม็ดละเอียด เพื่อให้ทรายสะอาดสามารถลอดผ่านการกรองของตระแกรงหมุน เพราะหากเม็ดทรายมีขนาดใหญ่เกินไปอาจจะทำให้ถูกคัดทิ้งลงไปถาดของเสียได้ ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองทรายและเป็นการทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอีกด้วย
  2. จับตัวเป็นก้อนได้เร็ว เมื่อน้องแมวขับถ่ายเรียบร้อยแล้ว ทรายควรจะจับตัวเป็นก้อนทันที ไม่เช่นนั้นของเสียก็อาจติดค้างอยู่ที่ตะแกรง หรือแตกตัวปะปนกับทรายที่ยังสะอาดดีอยู่ จนกลายเป็นปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา
  3. ดูดซับกลิ่นได้ดี ถึงแม้ห้องน้ำอัตโนมัติจะมีฟิลเตอร์และฟังก์ชั่นเสริมที่ช่วยจัดการกับกลิ่นของเสียอยู่บ้างแล้ว แต่กว่าจะถึงเวลาทำความสะอาดถาดของเสียด้านล่าง ก็อาจจะกินเวลาไปหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ ดังนั้น หากทรายแมวที่เลือกใช้ไม่มีประสิทธิภาพในการดูดซับกลิ่น บรรยากาศดี ๆ ภายในห้องก็อาจจะถูกรบกวนได้

MNIKS ONLINE

บริษัท มนูญเพ็ทช็อป บาย ไอเคเอส จำกัด เลขประจำผู้เสียภาษี 0125561018417 86/6-7 หมู่ที่ 2 ตำบล บางขุนกอง อำเภอ บางกรวย จังหวัด นนทบุรี 11130