ทำความรู้จักธรรมชาติของแมวก่อนเริ่มเลี้ยง

สิงหาคม 2, 2022
5:39 pm

คงปฎิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ทำให้ทาสแมวตกหลุมรัก ก็คือนิสัยตามธรรมชาติของแมว อาจเรียกได้ว่าแมวเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีนิสัยตามธรรมชาติหลากหลายมากที่สุดก็ว่าได้ ทั้งขี้อ้อน น่ารัก แสนซน เวลาที่อารมณ์ดีก็มักจะเข้ามาออดอ้อนคลอเคลียเจ้าของ แต่ในบางเวลาแมวก็เป็นสัตว์ที่มีโลกส่วนตัวสูง เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มา ซึ่งพฤติกรรมที่มีความหลากหลายเหล่านี้ทำเอาเหล่าทาสแมวชวนปวดหัวอยู่ไม่น้อย วันนี้เราจะชวนมาเรียนรู้ธรรมชาติของน้องแมวไว้ก่อนที่จะเลี้ยง เพื่อจะทำให้เราเข้าใจ และเลี้ยงเขาได้อย่างมีความสุขมากขึ้นอีกด้วย

1. แมวรักความสันโดษ

แมวเป็นสัตว์ขึ้นชื่อเรื่องรักความสันโดษ ชอบความเป็นส่วนตัว แมวสามารถนอนอยู่นิ่งๆเงียบๆตัวเดียวโดยที่ไม่กวนเจ้าของได้เป็นเวลานานๆ แมวแต่ละตัวจะมีมุมสงบส่วนตัวที่มักจะไปแอบงีบหลับอยู่ตัวเดียว ถึงแม้แมวจะเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ แต่เราก็ไม่ควรทิ้งให้แมวอยู่บ้านเพียงลำพังโดยไม่มีคนอยู่ด้วยเป็นเวลาหลายวัน การปล่อยให้แมวอยู่บ้านเพียงลำพังอาจส่งผลให้แมวมีพฤติกรรมก้าวร้าวจากความเครียด หรือได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นภายในบ้าน ซึ่งก็อาจจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยอื่นตามมาได้อีกด้วย

2. แมวจะฝนเล็บอยู่เสมอ

การฝนเล็บเป็นพฤติกรรมตามสัญชาตญาณของแมว โดยบริเวณอุ้งเท้าจะมีต่อมกลิ่นที่เป็นลักษณะเฉพาะของแมวแต่ละตัว การฝนเล็บลงไปบนสิ่งของก็เสมือนได้ปล่อยกลิ่นของตัวเองไว้ตรงตำแหน่งนั้นเพื่อใช้แสดงอาณาเขต แมวจะฝนเล็บเป็นแนวตรงที่เดิมซ้ำๆ ดังนั้นเพื่อป้องกันการฝนเล็บกับเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ในบ้าน เจ้าของควรมีที่ฝนเล็บให้แมวโดยเฉพาะ และที่สำคัญควรวางที่ฝนเล็บไว้ในจุดเดิมไม่ย้ายที่ นอกจากนี้แมวยังฝนเล็บไว้ให้แหลมคมอยู่เสมอเพื่อใช้ป้องกันตัวเองหรือป้องกันการถูกบุกรุกพื้นที่ และการฝนเล็บก็ยังช่วยกำจัดชั้นเล็บส่วนที่ตายแล้วให้หลุดออกอีกด้วย

3. แมวชอบอยู่ในกล่องหรือในที่แคบ

การซ่อนตัวเป็นสัญชาตญาณในอดีตสมัยที่แมวยังอาศัยอยู่ในป่า แมวจะซ่อนตัวในที่แคบตามโพรงไม้หรือในถ้ำเล็ก ๆ เพื่อหลบภัยจากนักล่า เมื่อแมวกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านสัญชาตญาณในการซ่อนตัวก็ยังคงอยู่ ซึ่งการซ่อนตัวในกล่องหรือที่แคบเปรียบเสมือนป้อมปราการที่จะทำให้แมวอุ่นใจ รู้สึกปลอดภัย เวลาอยู่ในที่ซ่อนแมวจะตื่นตัวและคอยสังเกตการณ์โดยไม่ให้อีกฝ่ายมองเห็น ในกรณีที่มีสัตว์อื่นหรือคนเดินเข้าหา ก็จะทำให้สามารถไหวตัวได้ทัน

4. แมวกลบมูลหลังขับถ่าย

ในอดีตเมื่อแมวใช้ชีวิตอยู่ในป่า การกลบมูลหลังขับถ่ายเป็นหนึ่งในสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของแมว การกลบกลิ่นจะช่วยอำพรางตัวเองเพื่อไม่ให้ศัตรูหรือเหยื่อรู้ตัวว่าแมวเคยอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันแมวจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านแต่พฤติกรรมนี้ก็ยังถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่ในแมวบางตัวก็อาจจะตั้งใจทิ้งมูลเอาไว้โดยไม่กลบ เพื่อต้องการแสดงอาณาเขตให้แมวตัวอื่นรับรู้ หรือถ้าอยู่ ๆ แมวเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่เคยกลบมูลกลายเป็นไม่กลบ อาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น แมวไม่ชอบทราย ไม่ชอบกระบะทราย หรือกระบะทรายเล็กเกินไป หรือกระบะทรายสกปรก เป็นต้น

5. แมวนอนมากกว่าตื่น

ธรรมชาติอีกอย่างของแมวคือแมวใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการนอน แมวสามารถนอนได้ถึงวันละ 15–20 ชั่วโมง สาเหตุที่แมวนอนเยอะเป็นเพราะปัจจุบันแมวกลายเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านที่มีคนดูแลหาอาหารไว้ให้แมวไม่จำเป็นต้องออกไปหาอาหารเอง ทำให้แมวมีกิจกรรมในชีวิตประจำวันน้อยลง แมวเลยนอนมากกว่าตื่น ยิ่งในหน้าร้อนเราจะเห็นแมวนอนมากขึ้นเพราะการนอนเป็นการช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย เพราะแมวไม่มีต่อมเหงื่อระบายความร้อนเหมือนคน

6. แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ

ธรรมชาติของแมวไม่เหมือนกับหมา หมาสามารถกินได้ทั้งพืชผักและเนื้อสัตว์คล้ายกับคน แต่แมวถือว่าเป็นสัตว์กินเนื้อ ร่างกายของแมวจะต้องการสารอาหารและพลังงานจากเนื้อสัตว์เป็นหลัก เพราะในเนื้อสัตว์จะมีกรดอะมิโนชนิดหนึ่งเรียกว่าทอรีน (Taurine) ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายของแมวมากเนื่องจากแมวไม่สามารถผลิตทอรีนได้เองเหมือนคนและหมา แต่จะได้รับทอรีนจากอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์เท่านั้น หากแมวไม่ได้รับทอรีนที่เหมาะสมเป็นเวลานานจะทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ อาจทำให้การเจริญเติบโตช้าลง ทำให้จอประสาทตาเสื่อม เกิดต้อกระจก เหนื่อยง่าย กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง หรือเกิดภาวะหัวใจโต หากไม่รีบรักษาอาการจะรุนแรงขึ้นถึงขั้นเสียชีวิตได้

7. แมวเลือกกินอาหารจากประสาทสัมผัส โดยเฉพาะกลิ่น

แมวมีต่อมรับรสเพียง 470 ต่อมเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าของคนถึง 19 เท่า คนมีต่อมรับรสถึง 9,000 ต่อม โดยแมวจะรับรสชาติต่างๆผ่านปุ่มหนามบนลิ้น และรับรสได้เพียง 4 รสชาติคือ เปรี้ยว เค็ม ขม และหวาน ซึ่งรสหวานแมวจะรับรสได้น้อยมากๆ แต่แมวกลับมีประสาทรับกลิ่นที่ดีกว่าคนอยู่มาก คนมีเซลล์รับกลิ่นเพียง 5 ล้านเซลล์ แต่แมวมีถึง 200 ล้านเซลล์ ดังนั้นเวลาแมวจะตัดสินใจเลือกกินอาหาร แมวจะใช้ประสาทสัมผัสทางกลิ่นเป็นอันดับแรก แมวมักจะดมอาหารก่อนกินอยู่เสมอ ยิ่งแมวใช้เวลาในการดมกลิ่นน้อยเท่าไหร่ ก็แสดงว่าอาหารนั้นน่ากินมากขึ้นเท่านั้น
โรยัล คานินได้คิดค้น อาหารเปียกสูตรใหม่ SENSORY ที่มีให้เลือกถึง 3 สูตร นอกเหนือจากโภชนาการที่ดีแล้ว แต่ละสูตรยังมีจุดเด่น ที่จะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสแต่ละส่วนด้วย

SENSORY สูตร SMELL สูตรนี้ช่วยกระตุ้นประสาทรับกลิ่นของแมวโดยเฉพาะ

ใช้เนื้อปลาจากแหล่งผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีกลิ่นหอมมันจากปลามีเทคโนโลยีที่ช่วยกระจายกลิ่นหอมๆ ของอาหารออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อดึงดูดประสาทการรับรู้กลิ่น กระตุ้นความอยากอาหารของแมวโดยเฉพาะ

SENSORY สูตร TASTE จะช่วยกระตุ้นประสาทรับรสของแมวโดยเฉพาะ ผ่านรสอูมามิ รสพิเศษเพิ่มเติมจากรสชาติพื้นฐาน ที่เป็นรสชาติกลมกล่อมจากกรดอะมิโนนานาชนิดที่พบได้ทั่วไปในเนื้อสัตว์ ที่ผ่านการออกแบบให้มี กลิ่นหอมของเนื้อย่างเกรียมๆ ที่ช่วยปลดล็อคประสาทรับรสของแมวให้เขาได้รับรสชาติได้อย่างเต็มที่

SENSORY สูตร FEEL สูตรนี้ช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสในปากของแมว เพิ่มความอิ่มเอมใจและความน่าตื่นเต้นให้กับมื้ออาหาร ด้วยชิ้นเนื้อที่ผ่านการตัดด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ ให้ชิ้นเนื้อมีรูปทรงอิสระตามธรรมชาติ (Natural cut) ให้ชิ้นเนื้อมีลักษณะเป็นชิ้นๆ และมีขอบไม่สม่ำเสมอ เลียนแบบการฉีกชิ้นเนื้อตามธรรมชาติ ช่วยกระตุ้น ความรู้สึกในปากของแมวระหว่างที่เคี้ยว (Mouthfeel) ในแบบที่แมวชอบ และเพิ่มความหลากหลายในรสสัมผัสตลอดมื้ออาหารอีกด้วย

ทั้ง 3 สูตรจะช่วยเพิ่มประสบการณ์อันหลากหลายในมื้ออาหารให้กับแมวที่เลือกกิน หรือกินยาก หรือแมวเบื่ออาหาร และยังมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพของแมวให้แข็งแรงสมบูรณ์

8. แมวชอบอยู่บนที่สูง

การกระโดดขึ้นที่สูงจะคล้ายกับการซ่อนตัวอยู่ในที่แคบ ๆ เป็นสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดเพราะถ้าแมวรู้สึกว่ากำลังมีอันตรายหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยการอยู่บนที่สูงจะช่วยให้แมวตั้งตัวได้ทัน เวลาที่แมวจะล่าเหยื่อมักจะเฝ้ามองเหยื่อจากที่สูง ทำให้เหยื่อไม่รู้ตัว รวมถึงเวลาที่แมวต้องการความเป็นส่วนตัวแมวก็จะกระโดดขึ้นที่สูง ดังนั้นถ้าไม่อยากให้แมวกระโดดขึ้นบนชั้นวางของ ปัดของตกเสียหาย หรือกระโดดขึ้นบนเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ควรเตรียมคอนโดแมวไว้ โดยให้วางในจุดที่แมวจะจะสามารถกระโดดขึ้นได้ง่าย

9. แมวเอาหัวหรือตัวมาชนมาถูไถ

อีกหนึ่งพฤติกรรมที่ทำให้ทาสแมวใจละลายคือเวลาที่แมวเอาหัว สีข้างตัว หางหรือแก้มมามาถูคลอเคลีย พฤติกรรมนี้คือหนึ่งในวิธีการแสดงความรักของแมวที่มีต่อเจ้าของและแมวรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เจ้าของ เพราะว่าช่วงบริเวณใบหน้า และส่วนหางของแมวจะมีต่อมกลิ่นพิเศษเฉพาะตัว เวลาที่ถูไถแมวจะปล่อยฟีโรโมนออกมา ซึ่งกลิ่นที่แมวปล่อยออกมาจะช่วยเปลี่ยนกลิ่นให้เจ้าของหรือแมวตัวอื่นเป็นกลิ่นเดียวกัน

พฤติกรรมต่างๆเหล่านี้เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของแมว บางตัวอาจจะมีพฤติกรรมทั้งหมดหรือมีแค่บางอย่าง หากเจ้าของเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจธรรมชาติของแมวก็จะทำให้ทั้งเจ้าของและแมวเข้าใจกันมากขึ้น และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ขอบคุณ : www.royalcanin.com/th